เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับ บริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จัดงานแถลงข่าว “ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด ในการแปลงขยะเป็นพลังงาน” ณ ห้องประชุม 202 อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานกล่าวเปิดงาน “ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับ บริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด ในการแปลงขยะเป็นพลังงาน” โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาะแวดล้อมและเลขานุการคณะกรรมการ กล่าวแนะนำแผนการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายมหาวิทยาลัยแห่งความยั่งยืน และ ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสภาะแวดล้อม และดำรงตำแหน่งผู้จัดการโครงการกล่าวแนะนำโครงการจุฬาฯ Zero Waste และความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมและบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นที่จะลดปริมาณขยะเหลือทิ้ง โดยส่งขยะไปฝังกลบให้น้อยที่สุด ตามแนวคิด zero waste จากประสบการณ์แยกขยะในสำนักงาน พบว่า ขยะบางประเภทไม่สามารถขายเป็นขยะรีไซเคิลได้เนื่องจากมีมูลค่ารีไซเคิลต่ำ หรือไม่คุ้มค่าในการรีไซเคิล เช่น หลอดพลาสติก ฝาครอบแก้ว ถ้วยกระดาษเคลือบไข กล่อง และแก้วพลาสติกบางชนิด ซึ่งเป็นประเภทขยะที่พบมากในมหาวิทยาลัย จึงได้สร้างความร่วมมือกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด ในการนำขยะที่รีไซเคิลไม่ได้ แต่มีค่าความร้อน นำไปปรับสภาพให้เหมาะสมเป็นเชื้อเพลิงทดแทน เผาร่วมในเตาปูนซีเมนต์ (co-processing in cement kilns) ที่สระบุรี ซึ่งนอกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถลดปริมาณขยะเหลือทิ้งได้มากขึ้นแล้ว โรงปูนยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ถ่านหินที่เป็นเชื้อเพลิงได้อีกด้วย ทั้งนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งเป้าส่งขยะไปเผาร่วมในเตาปูนซีเมนต์ ไม่น้อยกว่า 10 ตันต่อปี โดยรวมขยะแห้งจากศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาคที่สระบุรีด้วย และจะเริ่มส่งขยะตั้งแต่ปลายปี 2560 เป็นต้นไป
ดร.วินเซนต์ อาลอยซีอุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด กล่าวว่า “บริษัทยินดีที่จะสนับสนุนให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบรรลุเป้าหมาย zero waste และในขณะเดียวกันช่วยให้บริษัทลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย โดยขยะที่ส่งไปเผาร่วม 1 ตัน จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ 1.846 ตันคาร์บอน และไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศอื่นๆ เนื่องจากเตาเผาปูนซีเมนต์เป็นเตาเผาที่ใช้อุณหภูมิสูง และมีระบบควบคุมมลพิษทางอากาศที่ทันสมัย นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยรับรองกระบวนการเผาของเสียในเตาปูนซีเมนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
เพื่อให้ได้ขยะที่แห้งพอสมควรสำหรับส่งเผาร่วมในเตาปูนซีเมนต์ จึงได้จัดระบบแยกขยะใหม่ที่เป็นลักษณะเฉพาะของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือ “รีไซเคิลพลัส” (RECYCLE+) มาจาก “Recycle plus Energy Recovery” โดยใช้ลักษณะถังขยะรีไซเคิลสีเหลือง นอกจากทิ้งขยะรีไซเคิลที่ขายได้ เช่น ขวดพลาสติก กระป๋องอลูมีเนียม ยังสามารถทิ้งวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกและกระดาษที่แห้ง ที่เทน้ำและเศษอาหารออกจากบรรจุภัณฑ์ หรือผ่านการล้างด้วยน้ำ โดยมีพนักงานทำความสะอาดคัดแยกขยะที่ขายได้ออก ส่วนขยะที่ส่งแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน สำนักบริหารระบบกายภาพจะเก็บรวบรวมเพื่อนำไปเผาร่วมในเตาปูนซีเมนต์ต่อไป
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Chula Zero waste หรือติดต่อดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี ผู้จัดการโครงการ จุฬาฯ zero waste โทร 02 218 8217
แถลงข่าวความร่วมมือกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด
แถลงข่าวความร่วมมือกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด
แถลงข่าวความร่วมมือกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด
แถลงข่าวความร่วมมือกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด
แถลงข่าวความร่วมมือกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด
แถลงข่าวความร่วมมือกับบริษัทอินทรี อีโคไซเคิล จำกัด