Share this :

“ซับเหงื่อโลก” เป็นชื่อวิชาบูรณาการของนักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนปัญญาประทีป โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ทีม Chula Zero Waste เข้าไปทำงานด้วย เราได้เข้าไปสอนเรื่องขยะพลาสติก ไมโครพลาสติก และวิธีการที่ทุกคนจะช่วยกันดูแลโลกไม่ให้ร้อนไปกว่านี้

และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชื่อวิชานี้ก็แปลงร่างไปเป็นชื่องานอีเวนต์ กุศลกำลังสาม “ซับเหงื่อโลก” ร่วมกันจัดโดยโรงเรียนทอสี โรงเรียนปัญญาประทีป ดอยตุง และ Chula Zero Waste เป็นงานที่สัญญาว่าทุกๆ ส่วนของงานจะไม่ทำให้โลกร้อนขึ้นแน่นอน

ไม่เพียงเท่านั้น งานนี้ยังชวนทุกคนมาแลกเปลี่ยนไอเดียที่จะช่วยกัน “ซับเหงื่อโลก” ให้เย็นลงกันคนละไม้คนละมือ ในวิธีที่แต่ละคนทำได้ เหมือนที่ผู้จัดงานอธิบายแนวคิดของงานไว้ในเพจซับเหงื่อโลกได้น่ารักมากว่า “งานนี้ต้องไม่ใช่งานของสายแข็งรักษ์โลกจนเกินไปจนคนอื่นทำตามไม่ได้ อยากให้งานมันดูถ่อมตัว รักโลกเท่าที่แต่ละคนจะทำได้ รักโลกน้อยนิดแต่มหาศาล”

เราอยากชวนผู้อ่านมา “ชอปปิงไอเดียซับเหงื่อโลก” ไปด้วยกัน ไม่ต้องเตรียมกระเป๋าตังค์ เพราะทุกไอเดียนั้นฟรี ชอบไอเดียไหนก็เอาไปใช้ได้เลย


พระราชพัชรมานิต

ช้อป “ซับเหงื่อโลก”

  • งานนี้ชวนผู้เข้าร่วมงานหิ้วตะกร้า พกปิ่นโต พกกระบอกน้ำมาจากบ้านแล้วมาชอปปิงของที่อยากได้ อาหารที่อยากกิน น้ำที่อยากดื่มได้ตามสะดวกในงาน
  • ใครไม่ได้เอามาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอดช้อป ไม่ได้กินของอร่อย เพราะในงานมีซุ้ม “ยืมเพื่อน” ให้ยืมปิ่นโต กระบอกน้ำได้ ใช้เสร็จแล้วก็เอามาคืน หรือถ้าติดใจก็ซื้อกลับบ้านไปเลยก็ได้
  • ในงานยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำอย่างทำ Bees Wax Wrap ลายดอกไม้สวยๆ สำหรับไว้ใช้คลุมถ้วยชามแทนพลาสติกแรป มีน้องๆ ม.2 เป็นคนสอน ถ้าไม่มีเวลาทำก็มีขายให้หลายไซส์ หลายราคา

ตกแต่งงานให้เท่ด้วยของเหลือใช้

  • โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานที่แขวนเรียงอยู่ใกล้ๆ ทางเข้า ถ้าเดินอ้อมไปดูด้านหลังจะเห็นว่ามันพิมพ์ลงบนกระดาษเสียจากโรงพิมพ์ เป็นกระดาษที่พิมพ์เพื่อปรู๊ฟงานและยังมีอีกด้านใช้ได้อยู่ ผู้จัดงานก็เลยเอามาพิมพ์เป็นโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานนี้ซะเลย เท่ไปอีกแบบ
  • พอเดินเข้าไปในงาน เราเห็นกระดาษลังมหาศาลต่อสูงขึ้นไปถึงเพดาน แถมยังเอากระดาษลังมาทำเป็น Backdrop เวทีคู่ไปกับไม้พาเลทที่ต่อเป็นพื้นเวที มองไปรอบๆ มีทั้งซุ้มผ้าขาวม้า กองตะกร้าหวาย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่มันคือของตกแต่งงานทั้งนั้น! จัดให้ดีๆ ก็เก๋ไม่เบา เมื่อไปถามผู้จัดงานว่าได้ของเหล่านี้มาจากไหน ก็ได้คำตอบว่ารับบริจาคมาจากผู้ปกครองทั้งนั้นเลย
  • ของตกแต่งบางอย่างก็ยืมมาจากงานอื่นๆ เช่นซุ้มสีสันสดใสที่ต่อจากแฟ้มใช้แล้วก็ยืมมาจากงาน Bangkok Design Week 2020 ที่เพิ่งจบไปไม่กี่วันก่อนหน้า นิทรรศการบางส่วนก็ยืมมาจากนิทรรศการที่เคยทำไว้แล้วของดอยตุง และนิทรรศการขยะในทะเลของ Chula Zero Waste

ถึงเวลาบอกเลิกขยะ กับ นิทรรศการ “เราเลิกกันเถอะ”

เดินเลยจากเวทีด้านหน้ามาหน่อยก็จะเจอโซนนิทรรศการ “เราเลิกกันเถอะ” ที่แผ่นป้ายนิทรรศการทำจากกระดาษลังที่เหลือจากการตกแต่งงานนี้ ความรู้ต่างๆ ที่อยู่บนป้ายทั้งหมด (น่าจะเกือบ 50 ป้าย) เขียนด้วยแรงมือและแรงใจของทีมงานล้วนๆ

นิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 โซน

  1. ฉันหรือเธอที่เปลี่ยนไป โซนนี้พาเราไปดูความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่กำลังเกิดบนโลกทะเลทรายขยายตัว ปะการังฟอกขาว น้ำแข็งขั้วโลกละลาย พร้อมกับถามเราว่าความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเกิดเพราะ “โลกใบนี้ เลือกจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือใครกันแน่ที่เปลี่ยนไป”
  2. สบายดีหรือเปล่า เอ๊ะ ความสะดวกสบาย มันดีหรือเปล่านะ เปิดแอร์ปล่อยคาร์บอนเท่าไร กิน สเต็กจานนึง ใช้โทรศัพท์ ปล่อยคาร์บอนเท่าไร แล้วการเดินทางต่างๆ ละ ปล่อยคาร์บอนเท่าไร โซนนี้มีคำตอบให้
  3. พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน วันนี้ยังไม่ได้รักษ์โลกมากก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายที่จะเริ่มบอกรักโลก โซนนี้รวมหลากหลายวิธีที่เราจะช่วยกันทำเพื่อรักโลกได้ อย่างการจัดประชุมแบบ Green Meeting หรือการทำให้ทุกคนใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายๆ ด้วยแอปพลิเคชั่นที่ให้ข้อมูลการเดินทาง
  4. ไปที่ชอบที่ชอบ หาที่ไปที่เป็น “ที่ชอบที่ชอบ” ให้ขยะ จะได้ไม่ไปจบที่หลุมฝังกลบ มีทั้งวิธีการแยกขยะอย่างละเอียด และข้อมูลหน่วยงานต่างๆ ที่รับขยะแต่ละประเภท
  5. ตายแล้วไปไหน บางคนอาจจะสงสัยว่าถ้าไม่พาขยะไป “ที่ชอบที่ชอบ” แบบโซนเมื่อกี้ ขยะจะไปไหนนะ โซนนี้จะพาไปเรียนรู้เรื่องราวของขยะในทะเล ที่สุดท้ายแล้วอาจจะย้อนกลับมาหาตัวเราในรูปแบบ “ไมโครพลาสติก” ก็ได้

เวทีนี้มีแต่เรื่องกรีนๆ

Talk ก็กรีน

งานนี้เริ่มด้วยพระธรรมเทศนาโดย พระราชพัชรมานิต (พระอาจารย์ชยสาโร) ต่อด้วย Trash Talk ทอล์กที่ล้อมาจาก TED Talk ที่มีคอนเซ็ปต์ว่า Ideas Worth Spreading …Trash Talk ก็เชื่อว่าไอเดียการ “ซับเหงื่อโลก” ของทุกคนก็ควรค่าแก่การแบ่งปันเหมือนกัน Talk นี้จึงเต็มไปด้วยไอเดียในการ “ซับเหงื่อโลก” ในทุกรูปแบบ ตั้งแต่ไอเดียจากเด็กเล็กป.3 ไอเดียรักโลกด้วยการไม่รีดผ้า ไอเดียการจัดงานแต่งแบบรักโลกสุดๆ ไปจนถึงไอเดียการลดโลกร้อนของพี่ใหญ่ระดับประเทศอย่างดอยตุง (เพราะทั้งพระธรรมเทศนาและ Talk มีสิ่งที่น่าสนใจเยอะมากจริงๆ ถ้าให้เล่ารายละเอียดในนี้ก็คงยาวเกินไปเลยขอเก็บไปเล่าในบทความหน้าละกัน รอติดตามได้เลย)

คอนเสิร์ตก็กรีน

มีคอนเสิร์ตพลังงานไฟฟ้าจากขยะให้ศิลปินที่ชวนกันมาบอกรักโลกได้ใช้อย่างเต็มที่ ทั้งอุ๋ย บุดดาเบลส       ก้อง สหรัถ แถมด้วยวงดนตรีจากศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนปัญญาประทีป โดยไฟฟ้าที่ผลิตจากขยะจะชาร์จเก็บไว้ในแบตเตอรี พอจะใช้ก็แค่เสียบปลั๊กเครื่องดนตรีหรือไมค์เข้ากับอะแดปเตอร์ถังขยะนั่นเอง (ถังขยะไม่เหม็น เป็นแค่กิมมิกให้รู้ว่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้มาจากขยะจริงๆ นะ)

Fashion Show รัก(ษ์)โลก

แฟชั่นโชว์งานนี้มาในธีม Show Old Collection ยิ่ง old ยิ่งดี ชวนเหล่านายแบบนางแบบสมัครเล่นมา mix and match เสื้อผ้าเก่าให้ดูดีมีสไตล์ มีทั้งชุดที่ตัดจากผ้าขาวม้าที่เหลือ ชุดที่เย็บต่อกันจากเศษผ้า กระเป๋าที่นางแบบทำเองจากขยะพลาสติก ชุดเชียร์ลีดเดอร์ที่ตกแต่งด้วยขยะ และเสื้อผ้ามือสอง

ก่อนจบงานแต่ละองค์กรได้ผลัดกันขึ้นมาพูดว่าองค์กรของตัวเองจะทำอะไรเพื่อซับเหงื่อโลกบ้าง และร่วมกันลงปฏิญญาในนาม “กลุ่มพันธมิตรซับเหงื่อโลก” Chula Zero Waste ก็ร่วมลงปฏิญญาด้วย

แอบกระซิบว่าถ้ายังชอปปิงไอเดียไม่จุใจ งานนี้มีเพจซับเหงื่อโลก ที่รวมไอเดียจากชาว “ซับเหงื่อโลก” 46 ไอเดียให้ไปอ่านต่อได้ด้วย

เมื่อจบงานแล้ว เรารู้สึกได้ว่าไม่ต้องเป็นฮีโร่ก็กู้โลกได้ ลองคิดไอเดียเล็กๆ ลองทำอะไรที่เราทำได้ง่ายๆ แต่ไม่ทำร้ายโลก ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย แค่นี้เราก็ช่วยกัน “ซับเหงื่อโลก” ได้ไม่รู้จบแล้ว

ใครอ่านแล้วชอบไอเดียไหน หรือปิ๊งไอเดียอยากทำขึ้นมา ก็มาเล่าให้เราฟังได้นะ และอย่าลืมติดตามบทความต่อไปของ Chula Zero Waste ที่จะมาเล่าไอเดียจาก Trash Talk ให้ฟังแบบจุใจไปเลย

Share this :