ในเดือนมิถุนายนของทุกปีจะมีวันที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมถึง 2 วันภายในหนึ่งอาทิตย์ ได้แก่ วันที่ 5 มิถุนายน “วันสิ่งแวดล้อมโลก” (World Environment Day) และวันที่ 8 มิถุนายน “วันมหาสมุทรโลกหรือวันทะเลโลก “ (World Oceans Day)
วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก จัดขึ้นโดยองค์กรสหประชาชาติ (UN) มีจุดประสงค์เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ปัญหาการขาดแคลนอาหาร วิกฤตการณ์ด้านพลังงาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
วันสิ่งแวดล้อมโลก ใครว่ามีแต่เรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนิ่งๆ เรียบๆ ทุกปี หากใครคิดแบบนั้นก็ขอให้รู้ไว้ว่ากำลังจะตกเทรนด์อย่างแรง ตามไม่ทันยุคดิจิตอลเอาเสียเลย เพราะว่าในทุกๆ ปี วันสิ่งแวดล้อมจะมี “ธีม” ประจำเพื่อเจาะลึกและนำเสนอถึงปัญหาที่เป็นประเด็นในปีนั้น ซึ่งในปีนี้ มาในธีมสุดคูลอย่าง “Beat Plastic Pollution: If you can’t reuse, refuse it!” หรือ “การสู้กับปัญหาขยะพลาสติก: ถ้าเอากลับมาใช้ใหม่ไม่ได้ จงปฏิเสธมันซะ!” ถือว่าเป็นคำคมปลุกใจให้ฮึกเหิมต่อการปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งก็เข้ากับประเด็นกระแสโลกที่ในปีนี้ทุกองค์กรพยายามรณรงค์การลดใช้พลาสติก ประเภทใช้แล้วทิ้งหรือใช้ได้เพียงครั้งเดียวได้อย่างชัดเจนตรงประเด็นและเท่สุดๆ ไปเลย!
Chula Zero Waste ขอแนะนำวิธีทำให้ทุกๆ วันกลายเป็นวันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเราจะมาอัพเดททฤษฎี3Rให้ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วย “ทฤษฎี 6R” อย่าลืมทำตามและนำเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน รับรองว่าขยะลดอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน
1.Reduce : เริ่มที่หลักการง่ายๆ จากทฤษฎี 3R นั่นก็คือการ “ลดใช้” เพราะการใช้ให้น้อยลงเท่ากับเป็นการสร้างขยะให้น้อยลงด้วยเช่นกัน
2.Reuse : หากเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ ก็อย่าลืมนำกลับมา “ใช้ซ้ำ” เพราะการหยิบสิ่งของรอบตัวกลับมาใช้ซ้ำอาจสร้างคุณประโยชน์มหาศาลโดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเลยก็ได้นะ
3.Recycle: วัสดุบางชิ้นเราไม่สามารถใช้ซ้ำได้อีก แต่เราสามารถ “นำกลับมาใช้ใหม่ได้” โดยการปรับแต่งเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นชิ้นส่วนใหม่ อย่างเช่น การนำขวดเก่ากลับมาหล่อเป็นขวดใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ชิ้นงานใหม่ การคัดแยกขยะรีไซเคิลจะช่วยให้ขยะที่กำลังจะถูกผลิต ขึ้นมาใหม่ ยังคงมีความสะอาด ลดการปนเปื้อนจากขยะประเภทอื่น และลดขั้นตอนในการทำความสะอาดซึ่งช่วยลดพลังงานและทรัพยากรบางชนิดได้ในทางอ้อมอีกด้วย
4. Repair: “การซ่อมแซม” เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยยืดอายุการเป็นขยะของสิ่งของนั้นๆ เช่น การนำกระถางแตกมาจัดเป็นสวนจิ๋ว นอกจากจะลดขยะแล้วยังอาจเพิ่มมูลค่ากลายเป็นอาชีพเสริมที่ทำกำไรให้โดยไม่รู้ตัว
5. Rethink: ข้อนี้ถือเป็นโจทก์หินสำหรับใครหลายคนเลยก็ว่าได้ เพราะการปรับเปลี่ยนความคิดหรือเปลี่ยนทัศนคติต้องใช้ความเข้าใจและใช้เวลา แต่เราเชื่อว่าทุกคนทำได้ โดยเริ่มจากการ “มองมุมกลับ” มองอีกด้านหนึ่งที่ไม่ใช่แค่ประโยชน์ที่จะได้รับ แต่เป็นผลเสียที่จะตามมาด้วยจากนั้นจึง “ปรับมุมมอง” ปรับเปลี่ยนความคิดเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่จะตามมา ฝึกคิด ฝึกปรับเปลี่ยน ทฤษฎีข้อนี้ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
6.Refuse: ตามกระแสวันสิ่งแวดล้อมปี 2018 กันหน่อย อย่างที่บอก…“ถ้าเอากลับมาใช้ใหม่ไม่ได้ก็จงปฏิเสธมันซะ!” ข้อนี้เป็นการขมวดปมทฤษฎี 6R เข้าด้วยกัน คือ ลดใช้ไม่ได้ ใช้ซ้ำไม่ได้ นำกลับมาใช้ใหม่ก็ไม่ได้ หรือจะซ่อมแซมก็ไม่ได้อีก คงต้องขอคิดใหม่แล้วปฏิเสธที่จะใช้ดีกว่า
ถ้าเราช่วยกัน จงมั่นใจว่าทำได้
Together We Can มั่นใจเราทำได้!
ข้อมูลจาก greennews, guru.sanook